ระบบสัญญาณเตือนไฟไหม้

Manual Call-Point (MCP) คือ อุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถติดต่อ (ด้วยมือ) เพื่อแจ้งข่าวการเกิดเพลิงไหม้เข้าระบบป้องกันอัคคีภัยอัตโนมัติโดยตรง โดยทั่วไป MCP จะเป็นส่วนหนึ่งของระบบแจ้งเตือนฉุกเฉินในสถานที่ เป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญในการแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
เช่นกรณีการเกิดไฟไหม้ ระบบหลังจากการแจ้งเตือน จะทำการประชาสัมพันธ์ให้คนที่เกี่ยวข้องทราบ และติดต่อเพื่อเรียกใช้ระบบช่วยเหลือที่เกี่ยวข้อง (Supporting system) อย่างรวดเร็ว
MCP มีลักษณะเป็นปุ่มกดหรือสวิตช์กด ที่ผู้ใช้งานสามารถกดเพื่อแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉินได้ โดยทั่วไป MCP จะติดตั้งที่สถานที่ที่สามารถเห็นง่ายและเข้าถึงได้ง่าย เช่น บริเวณทางออก ทางหนีไฟ หรือจุดสำคัญอื่นๆ ในอาคาร
วัตถุประสงค์ของ Manual Call-Point
- การเปิดใช้งานด้วยมือ – อนุญาตให้บุคคลสามารถกดสัญญาณเตือนไฟได้ด้วยตนเองในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน
- อุปกรณ์เริ่มต้นการแจ้งเตือน – ส่งสัญญาณไปยังแผงควบคุมระบบสัญญาณเตือนไฟ (FACP) เพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบเตือนภัย
คุณสมบัติหลัก

- กระจกแตก (Break Glass) – โดยทั่วไป MCP จะมีกลไก “กระจกแตก” เมื่อกดหรือทุบจะส่งสัญญาณไปยัง FACP
- รีเซ็ตได้ – บางรุ่นสามารถรีเซ็ตกลับมาใช้ซ้ำได้ ขณะที่บางรุ่นต้องเปลี่ยนใหม่หลังจากถูกใช้งาน
ความสำคัญ
- แจ้งเตือนล่วงหน้า – ช่วยให้สามารถแจ้งเตือนไฟไหม้ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อการอพยพและตอบสนองได้ทันเวลา
- ข้อกำหนดทางกฎหมาย – มักเป็นอุปกรณ์ที่กฎหมายหรือมาตรฐานความปลอดภัยอัคคีภัยกำหนดให้ต้องมีในอาคาร
การติดตั้ง
- ตำแหน่งที่เหมาะสม – ควรติดตั้งในจุดที่เข้าถึงได้ง่าย เช่น เส้นทางอพยพ บริเวณทางออก และใกล้บันไดหนีไฟ
- ทดสอบเป็นประจำ – ควรมีการทดสอบอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ทำงานได้ตามปกติ
ข้อดีของ Manual Call-Point
ระบบแจ้งเตือนทันที : การใช้ MCP ช่วยให้มีการแจ้งเตือนทันทีเมื่อมีเหตุฉุกเฉินหรือเพลิงไหม้ เป็นการรับรู้สถานการณ์อย่างรวดเร็วและช่วยให้มีการรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความคุ้มค่า : MCP มีราคาที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับเครื่องตรวจจับเหตุฉุกเฉินอัตโนมัติ ทำให้เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับระบบความปลอดภัยที่จำเป็นต้องควบคุมค่าใช้จ่าย
การใช้งานง่าย : การใช้งาน MCP เป็นเรื่องง่ายและไม่ซับซ้อน ผู้ใช้สามารถรีเซ็ต MCP ได้ง่ายๆ หลังจากเหตุฉุกเฉินและไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือพิเศษ
ความน่าเชื่อถือ : MCP มักมีความน่าเชื่อถือสูงและมีแนวโน้มที่จะมีข้อผิดพลาดน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเซ็นเซอร์ที่ซับซ้อน มีความคงทนทานและมั่นใจในการทำงาน
การบำรุงรักษาง่าย : MCP มักมีการบำรุงรักษาที่ง่ายและไม่ซับซ้อน ไม่ต้องมีการทดสอบอย่างสม่ำเสมอและมีความเสถียรในการทำงาน
ความคล่องตัว : การใช้มนุษย์ในการแสดงสัญญาณเตือนช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนสัญญาณหรือข้อความตามสถานการณ์เฉพาะ เช่น การใช้งานในสถานที่ที่มีความจำเป็นในการส่งข้อความพิเศษ
ข้อเสียของ Manual Call-Point (MCP)
ต้องมีคนอยู่ใกล้ๆ : การใช้งาน MCP ต้องพึ่งพาคนในการแจ้งเหตุฉุกเฉิน ซึ่งอาจทำให้มีความล่าช้าในการตอบสนองในกรณีเฉี่ยวเฉียดหรือเหตุฉุกเฉินที่ต้องการการรับมืออย่างรวดเร็ว
การทำงานไม่ต่อเนื่อง : เมื่อ MCP ถูกใช้งานเพื่อแจ้งเหตุฉุกเฉิน จะต้องมีการรีเซ็ตก่อนที่จะสามารถใช้งานอีกครั้ง ซึ่งอาจทำให้มีช่วงเวลาที่อุปกรณ์ไม่สามารถใช้งานได้
มีความเสี่ยงในการเปิดปิดโดยไม่ได้ตั้งใจ : โดยทั่วไปจะสามารถทำให้ MCP เปิดปิดได้โดยการกดหรือดันชิ้นส่วนภายนอก ซึ่งอาจเป็นปัญหาหากมีการเล่นเพลิงไหม้หรือการเปิดปิดโดยไม่ได้ตั้งใจ
ไม่มีข้อมูลสถานะเพิ่มเติม : MCP มักไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานะของเหตุฉุกเฉิน เช่น ที่ตั้งหรือประเภทของเหตุฉุกเฉิน ซึ่งอาจทำให้การรับมือกับสถานการณ์เป็นไปอย่างไม่มีข้อมูล
ไม่เหมาะสำหรับสถานที่ที่ต้องการความไวในการรับมือ : ในสถานที่ที่ต้องการการตอบสนองที่รวดเร็วและความไวในการรับมือ เช่น โรงงานหรือสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง การใช้ MCP อาจไม่เหมาะสมความน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับระบบอัตโนมัติ : หากเปรียบเทียบกับระบบเตือนภัยอัตโนมัติที่มีเซ็นเซอร์และเทคโนโลยีขั้นสูง MCP มีความจำเป็นเฉพาะในสถานการณ์บางประการและมีข้อจำกัดในความสามารถในการตรวจจับเหตุฉุกเฉิน
